เว็บสล็อต , สล็อตแตกง่าย ท่อระบายน้ำทิพย์ โซเชียลวิจารณ์สนั่นย้อนถาม หน่วยงานรัฐ ตรวจสอบแบบแล้วหรอ ?

เว็บสล็อต , สล็อตแตกง่าย ท่อระบายน้ำทิพย์ โซเชียลวิจารณ์สนั่นย้อนถาม หน่วยงานรัฐ ตรวจสอบแบบแล้วหรอ ?

เว็บสล็อต , สล็อตแตกง่าย ท่อระบายน้ำทิพย์ กลายเป็นงานก่อสร้างของ หน่วยงานรัฐ อีกหนึ่งชิ้นที่กำลังถูกตั้งคำถามจากประชาชนอย่างหนัก ก่อสร้างแบบนี้มีการตรวจสอบแบบไหม บัญชีเฟซบุ๊กที่ชื่อ Watchdogth Act โพสต์ภาพการดำเนินงานติดตั้งท่อระบายน้ำในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท ระยะทาง 1 กิโลเมตร พร้อมแคปชั่น “ท่อระบายน้ำทิพย์ ระยะทางก่อสร้าง 1 กิโลเมตร งบประมาณ 10 ล้าน”

หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป บรรดาผู้เสพย์ข่าวโลกออนไลน์ก็ออกมาแสดงความเห็นกันอย่างน่าสนใจทีเดียว 

อาทิ ผู้ใช้รายหนึ่งโพสต์ถามว่า “วิศวโยธาของ ​อบต.หรือเทศบาล ไม่ได้ตรวจสอบแบบเหรอ แล้วผู้รับเหมาไม่ได้ยื่นแบบหรือครับตอนประมูลงาน” อีกรายถามว่า “คิดว่าต่อท่อลงรางระบายน้ำแล้วต่อข้องอ 90 องศาลงไป แล้วมันจะล้างท่อยังไงเวลาท่อตัน” ทั้งนี้มีผู้ใช้รายหนึ่งได้ทำออกมาโพสต์ภาพที่เป็นการก่อสร้างเสร็จสิ้นและใช้งานจริง ซึ่งก็ต้องยอมรับความจริงว่าไม่ได้ดีขึ้นกว่า ภาพที่หลุดออกมาตอนเป็นข่าวดังเสียเท่าไหร่

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่เอกสารเปิดเผยว่าประชาชนที่ ไม่สวมแมสก์ มีโทษ ปรับเงิน สูงสุด 20,000 บาท ส่วนเงินค่าปรับให้นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน

เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่เอกสาร เกี่ยวข้องกับ ระเบียบคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบความผิดกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (6) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 พ.ศ. 2564 ลงนามโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ โดยมีเนื้อหาสาระที่สำคัญเกี่ยวข้องกับการเปรียบเทียบปรับกรณีไม่สวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ระบุว่า

ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) ได้แพร่อย่างรวดเร็วและกว้างขวางในทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและการดำรงชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนและต่อระบบการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข

ทั้งนี้ ในการแก้ไขสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ได้มีการอาศัยอำนาจของพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาใช้ในการแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวด้วย โดยได้มีการกำหนดมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ที่สำคัญคือการให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อและป้องกันมิให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ และจำกัดวงในการระบาดของโรคโควิด 19

ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อได้ออกคำสั่งห้ามผู้ใดกระทำการซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะโดยการไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคโควิด 19 แพร่ออกไป แล้วผู้นั้นฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558

ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 

และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและไม่เป็นภาระแก่ประชาชนเกินสมควรจึงเห็นสมควรกำหนดหลักเณณฑ์การเปรียบเทียบความผิดกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่สั่งห้ามผู้ใดกระทำการซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะโดยการไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคโควิด 19 แพร่ออกไป ไว้เป็นการเฉพาะ

ซึ่งหากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 สงบลงหรือกรณีมีเหตุอันสมควร หรือได้มีการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 แล้ว เห็นควรให้ยกเลิกระเบียบนี้ไปในคราวเดียวกันด้วย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 57 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติจึงออกระเบียบไว้

ในข้อ 4 ของระเบียบฉบับนี้ระบุด้วยว่า “ความผิด” หมายความว่า ความผิดตามมาตรา 51 ฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (6) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ที่สั่งห้ามผู้ใดกระทำการซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะโดยการไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคโควิด 19 แพร่ออกไป

“ผู้มีอำนาจเปรียบเทียบ” หมายความว่า อธิบดีกรมควบคุมโรคหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมควบคุมโรค มอบหมายให้มีอำนาจเปรียบเทียบบรรดาความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียวหรือมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2258

สำหรับอัตราการเปรียบเทียบแนบท้ายระเบียบคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบความผิด กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (6) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 พ.ศ.2564 มาตรา 51 ฐานความผิดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (6) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ที่สั่งห้ามผู้ใดกระทำการซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะโดยการไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคโควิด 19 แพร่ออกไป ระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท อัตราค่าปรับที่กำหนดให้เปรียบเทียบ

อย่างไรก็ตาม ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ส่วนเงินค่าปรับในการเปรียบเทียบให้นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน เว็บสล็อต , สล็อตแตกง่าย