นายอำเภอกำชับห้าม ถ่ายคลิปโป๊ในรีสอร์ต หวั่นซ้ำรอยเหตุคลิป ‘วังน้ำเขียว Onlyfan’

นายอำเภอกำชับห้าม ถ่ายคลิปโป๊ในรีสอร์ต หวั่นซ้ำรอยเหตุคลิป ‘วังน้ำเขียว Onlyfan’

นายอำเภอกำชับโรงแรมห้าม ถ่ายคลิปโป๊ในรีสอร์ต หวั่นซ้ำรอยเหตุคลิป ‘วังน้ำเขียว Onlyfan’ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังไม่เจอตัวเจ้าของคลิป จากกรณีที่มีคู่รักถ่ายคลิปโป๊ลงเว็บ Onlyfan ที่วังน้ำเขียว จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ตามที่รายงานไปก่อนหน้านี้นั้น ล่าสุด นายสุพจน์ แสนมี นายอำเภอวังน้ำเขียว เปิดเผยว่าได้ประสานเรื่องไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และกำลังตามหาเจ้าคลิปมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยทางนายสุพจรน์ระบุว่า พฤติกรรมของคู่รักคู่นี้ที่ถ่ายคลิป วังน้ำเขียว Onlyfan ถือเป็น ความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์อยู่ ในส่วนเรื่องการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีกนั้น

ทางอำเภอก็ได้แจ้งขอความร่วมมือให้รีสอร์ตหรือแหล่งที่พักต่างๆ ในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว ได้มีการแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบ ไม่ให้มีการกระทำใดๆ อันจะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อแหล่งท่องเที่ยวได้ โดยเฉพาะการถ่ายคลิปโป๊แล้วนำไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์

ย้อนกลับไปเมื่อวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา โลกโซเชี่ยลต้องลุกเป็นไฟหลังจากที่มี ผู้ใช้บัญชีโซเชียลนำคลิปโป๊มาเผยแพร่ทางไลน์ โดยเป็นคลิปที่แชร์ออกไป จำนวน 3 คลิป ความยาวคลิปละประมาณ 4 นาที

ต้นคลิประบุข้อความว่า “วังน้ำเขียวเสียว..” และในคลิปเป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งกำลังมีเพศสัมพันธ์กันในห้องพัก คาดว่าเป็นรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

นายปรัธนา กล่าวต่อไปว่า “บริษัทฯใคร่ขออภัยจากเหตุการณ์นี้ ที่อาจจะก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ลูกค้า และ ขอเรียนแนะนำให้ลูกค้าเพิ่มความระมัดระวังในการทำธุรกรรมต่างๆ ที่ต้องใช้ข้อมูลดังกล่าว รวมถึงตรวจสอบ เพิ่มเติมกรณีอาจมีผู้แอบอ้างในการติดต่อเพื่อขอข้อมูลและทำธุรกรรมใดๆ กับท่าน” “บริษัทฯ ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างระบบสื่อสารของประเทศ เราให้ความสำคัญสูงสุดกับนโยบายด้าน การรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ตามมาตรฐานสากล และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้บริษัทฯกำลังเร่งตรวจสอบผู้ที่ กระทำการดังกล่าว รวมถึงผู้ที่จะนำข้อมูลดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป”

ล่าสุดวันนี้ 11 ม.ย.65 คุณพลอย ได้ออกมาอัปเดตความคืบหน้า #ทวงคืนโชยุ ว่าตอนนี้นั้น เธอได้ดำเนินคดีกับ (อดีต) แฟนหนุ่มแล้ว พร้อมตัดความสัมพันธ์ไปตั้งแต่จับได้ว่าเอาน้องไปขายแล้ว

ข่าวปลอม! ขึ้นเงินสลากดิจิทัล ต้องใช้สลากจริงเท่านั้น

จากการเผยแพร่ของข้อมูลที่ว่าในการ ขึ้นเงินสลากดิจิทัล จะต้องทำการใช้งานต้องใช้สลากตัวจริงเท่านั้น พบว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด (14 มิ.ย. 2565) ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลบนสื่อออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องการ ขึ้นเงินสลากดิจิทัล ต้องใช้สลากจริงเท่านั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กระทรวงการคลัง พบว่าข้อมูลที่ปรากฏดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีที่มีการโพสต์ข้อความโดยระบุว่าการขึ้นเงินรางวัลสลากดิจิทัล ต้องใช้สลากจริงเท่านั้น ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า สลากดิจิทัลเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบใบเดิม โดยสำนักงานฯ จะจัดเก็บสลากฉบับจริงไว้ กรณีถูกรางวัลระบบจะแจ้งเตือนไปที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง ภายในเวลา 18.00 น. ของวันที่ออกรางวัล โดยให้เลือกรับรางวัลได้ 2 ช่องทาง

1. คือเลือกรับโดยการโอนเงินซึ่งจะโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ผูกไว้กับแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อความสะดวกของผู้ซื้อ วิธีนี้จะเสียค่าธรรมเนียม 1% และค่าภาษีอากรแสตมป์ 0.5%

2. สามารถเลือกมารับเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ โดยต้องกำหนด วัน เวลา ที่ต้องการเข้ามารับเงินรางวัล เพื่อที่สำนักงานสลากฯ จะจัดเตรียมสลากแบบใบตัวจริง เพื่อส่งคืนให้กับผู้ซื้อ เพื่อเข้าสู่กระบวนการขึ้นเงินรางวัล วิธีนี้จะเสียเฉพาะค่าภาษีอากรแสตมป์ 0.5%

ทั้งนี้ การกำหนดค่าธรรมเนียม และค่าอากรแสตมป์ดำเนินการเช่นเดียวกับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการนำสลากไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลาก หรือธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารกรุงไทย สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.glo.or.th หรือโทร. 02 5289999 รวมทั้งรับชมขั้นตอนการซื้อสลากและการขึ้นเงินรางวัลได้ https://youtu

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจาก ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.glo.or.th หรือโทร. 02 5289999

นอกจากนี้ยังกำหนดมาตรการสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนเลยกำหนดชำระ 12 วัน เป็นต้นไป ไว้อีกด้วยว่าจะต้องถูกดำเนินการตามขั้นตอนประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา อาจถูกขึ้นบัญชีดำ และอาจถูกเรียกให้ชำระค่าผ่านทาง และค่าปรับในขั้นตอนการชำระภาษีรถยนต์ประจำปีอีกด้วย

สำหรับ #ทวงคืนโชยุ ดราม่า แมวหาย ยังดูเหมือนจะไม่จบได้ง่าย ๆ เพราะกำลังอยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรจ่อไป The Thaiger จะคอยอัปเดตให้ทุกคนได้ทราบกันต่อไป

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า